Friday, 31 March 2023

หมอหนุ่ม เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” อัปเดตอาการป่วย “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย”

หมอ หนุ่ม เจ้าของ “เพจสู้ดิวะ” ป่วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อัพเดทอาการล่าสุด ภายหลังรับเคมีบำบัดรักษาครั้งที่สาม ยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ แทบจะปกติ

โซเชียลร่วมส่งกำลังใจให้ หมอ หนุ่มวัย 28 เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” พร้อมอัปเดตอาการป่วย “โรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย” โดยขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตให้สนุก มีสุขภาพที่แข็งแรง

หากใครได้ติดตามเรื่องราวก่อนหน้านี้ แพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่ตนเองนั้น ป่วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งๆที่เชื่อมั่นสุขภาพแข็งแรงมาตลอด มีการงานอาชีพที่สามารถเรียกได้เลยว่า กำลังไปได้สวย ซึ่งปัจจุบัน เจ้าตัวก็ได้อัพเดทอาการภายหลังรับเคมีบำบัดรักษา ครั้งที่สามหมอ หนุ่ม เจ้าของเพจสู้ดิวะ

จากกรณีเรื่องราวคุร หมอ ที่ถูกเอ่ยถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์

เมื่อ แพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “สู้ดิวะ” เพื่อเล่าประสบการณ์การป่วยเป็น “โรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย” ทั้งๆที่อายุน้อย ชอบออกกำลังกาย และก็ มีสุขภาพที่แข็งแรง ต่อมาโลกออนไลน์ได้ส่งกำลังใจให้คุณหมอกันจำนวนมาก (หมอหนุ่มวัย 28 เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” แชร์ประสบการณ์ป่วย “โรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย”)

ล่าสุด วันที่ 27 เดือนพฤศจิกายน 2565 เฟซบุ๊ก สู้ดิวะ ได้โพสต์ข้อความอัปเดตอาการป่วย ดังที่กล่าวถึงแล้ว โดยกล่าวว่า สวัสดีครับทุกคน ผมสบายดีครับ ยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้แทบจะปกติ เพิ่งจะรับเคมีบำบัดรักษา ครั้งที่สาม มาเมื่อวันพุธก่อนหน้านี้

รอบนี้เพลียมากๆ ง่วงตลอดทั้งวัน ตื่นมากินข้าว แล้วหลังจากนั้นก็ หลับต่อ เรียกได้ว่า นอนจนกระทั่งจะเป็นแผลกดทับ วันนี้มีแรงมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ออกมาทานข้าวนอกบ้าน อยากไปออกกำลังกายแล้ว แต่ว่าฝุ่นละอองเชียงใหม่ก็เริ่มน่ากลัว เกินกว่าจะเอาปอดไปเสี่ยง ไม่อยากจะนึกถึงฝุ่นละอองช่วงพีคเลย คงจะต้องเก็บตัวอยู่ด้านในห้อง ไม่ก็ย้ายจังหวัดชั่วคราว แต่ว่าเอาจริงช่วงพีคนี่ย้ายไปจังหวัดไหนก็คงจะพอกัน

ช่วงก่อนจะรับยารอบสามนี้ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้น ต้องบอกว่าตัวผมเองปกติแล้ว ออกกำลังกายหนักถึงหนักมาก แต่ว่าพอมาเข้ารับการดูแลรักษา ในตอนเดือนแรก ลำพังแค่ยืนให้ตรง ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว เพราะ ถ้าเช่นนั้นการออกกำลังกายก็เลยไม่ได้ทำเลย วันๆก็กินกับนอน

บวกกับตอนแรกเป็นช่วงประชดชีวิต อะไรที่เคยไม่กิน เราก็กินหมดเลย ของทอด ของมัน หมูกรอบ สามชั้น เค้ก น้ำหวาน เรียบร้อยไขมันสูง ได้เริ่มรับประทานยาลดไขมันในเลือด แต่ว่าดี เพราะ มันทำให้มีเป้าหมายระยะสั้นขึ้นมาว่า จำเป็นจะต้องกลับมามีวินัยดูแลตนเองแล้ว

เพจสู้ดิวะ

ในตอนรับการดูแลรักษาคุณหมอ

มันจำเป็นจะต้องกินเยอะๆ เพราะ โดยทั่วไปเราจะน้ำหนักลดอยู่แล้ว ครั้งนี้ เราจะต้องเน้นไปที่การกินของดี พวกอกไก่ ไข่ขาว ธัญพืช แป้งดีๆลดน้ำตาล ลดไขมันให้มากที่สุด บวกกับเริ่มออกกำลังกายด้วย ซึ่งจริงๆแล้ว เหตุผลสำหรับการที่จะกิน แต่ว่าของอร่อยและไม่ออกกำลังกายมีเต็มไปหมดเลย แถมเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นด้วย แต่ว่าก็เลือกกลับมาจริงจังกับเรื่องโภชนาการ และก็ การออกกำลังกาย

ในวันที่ฝุ่นละอองน้อยๆ จะเริ่มจากการออกไปเดิน พยายามเดินให้ได้หมื่นก้าว ซึ่งมันใช้เวลานานมาก เดินได้ครู่หนึ่งก็เริ่มรู้สึกว่า เราต้องวิ่ง ก็ค่อยๆลองวิ่งถึงจะยังไม่ใช่ความเร็วเท่าเดิม แต่ว่าวิ่งได้ คุมการหายใจได้ แรกๆก็วิ่งได้ไม่กี่นาที แต่ว่าพอทำไปเรื่อย ก็เริ่มวิ่งได้ระยะทางมากขึ้น ในแต่ละวัน ตอนแรกจะปวดขามากๆ เพราะ กล้ามเนื้อมันหายไปเยอะมาก ตอนที่นอนโรงพยาบาล ต้องซ้อมอยู่นับเป็นเวลาหลายวันกว่าจะวิ่งตลอดได้สิบห้านาที เลยต้องเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วย

ล่าสุด ก่อนรับยารอบนี้ก็เล่นได้ทุกท่า แต่ว่าน้ำหนักลดน้อยลง จากที่เคยยกได้มากๆ ก็ค่อยๆซ้อม ค่อยๆหาสมดุลของร่างกาย เรียกความฟิตกลับมาเท่าที่ไหว หวังว่าวันหนึ่งจะกลับไปเล่นบาสได้ ซึ่งการทำอะไรพวกนี้ มันรู้สึกว่าได้มีบางส่วนของชีวิตที่เราพอจะพยายาม เพื่อเปลี่ยนผลลัพธ์ของมันได้บ้าง ในส่วนของสิ่งที่เราทำได้แค่เชื่อ และก็ ภาวนา เป็นเรื่องการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดรักษา และก็ ภูมิต้านทานบำบัดรักษา ส่วนนี้ เป็นสิ่งที่เราทำได้แค่ภาวนาให้น้องโรคมะเร็งตอบสนองกับยาที่ให้ไปแค่นั้น

ซึ่งปัจจุบันนี้ เอกซเรย์ปอดดูดีขึ้น ก้อนใหญ่ด้านขวามีขนาดเล็กลง และก็ ก้อนน้อยๆที่ปอดซ้ายก็ดูจางลง ผลข้างเคียงที่ชัดๆก็มีแค่ เรื่องผมร่วงกับอ่อนเพลีย ยังไม่เป็นผลข้างเคียงร้ายแรงอะไร เป็นคนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ และก็ หลักการทางวิจัยก็จริง การที่มันสนองตอบก็คงจะมีกลไกของยาจากที่การศึกษาได้บอกไว้

แต่ว่าอีกส่วนหนึ่ง ผมก็เชื่อว่าเป็นเนื่องจากว่ามีผู้หวังดีหลายๆท่าน ทั้งที่ผมทราบ และก็ ที่ผมไม่รู้ ได้ทำการภาวนา สวดมนต์ทำบุญ รวมทั้ง อีกมากมายหลากหลายวิธีที่ผมก็เพิ่งรู้ดีว่ามันส่งพลังได้ เพื่อจะส่งมอบพลังดีๆให้กับผม เพื่อให้โรคนี้สงบ ให้ผมมีร่างกายแข็งแรง ผมขอบพระคุณมากๆจากใจจริงครับ

ผมเชื่อจริงๆว่า ส่วนของสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์นี้ล้วนประกอบกันทำให้ในปัจจุบันนี้ การดูแลรักษาของผม ก็เลยเป็นไปได้ด้วยดี ตัวผมเองก็สวดมนต์ทำบุญอยู่ตลอด และก็ หวังว่าทุกท่านที่ส่งต่อพลังดีๆให้ผมจะได้เผชิญสิ่งดีๆในชีวิตเช่นกันครับ

เวลานี้ดูเหมือนกับว่าเรื่องราวจะไปได้สวย โรคดูเหมือนจะสนองตอบ แต่ยังไงก็ตาม พวกเราต้องไปติดตามภายหลังได้รับการดูแลรักษาครบอีกที แล้วหลังจากนั้นก็ต้องไปดูด้วยว่า ก้อนในหัวเล็กลงไหม มีก้อนใหม่ขึ้นที่อื่นๆภายในร่างกายไหม การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกล แต่ว่าตอนนี้แค่วันนี้แค่นั้น ที่ตนมีแรงยืนขึ้นมาเดิน มาวิ่งได้ ออกมารับประทานข้าว และก็ มาพิมพ์โพสต์นี้ได้ ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตให้สนุก และก็ มีสุขภาพที่แข็งแรง.